ถ้าโอนเงินผิดบัญชี ไม่ต้องตกใจเพียงแค่ทำตาม 3 ขั้นตอนนี้ก็ได้เงินคืน

ปัจจุบันการโอนเงินระหว่างบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการโอนที่สาขาของธนาคาร โอนผ่านตู้ ATM  โอนผ่าน Internet Banking หรือMobile Banking ของธนาคาร คือวิธีที่เราทุกคนสามารถทำได้ตลอดเวลา และบางครั้งอาจเกิดข้อผิดพลาดในการโอนเงิน เนื่องจากความเข้าใจผิดในตัวเลขที่ได้รับมาจากปลายทาง โดยบางครั้งเข้าใจว่าเลขบัญชี เป็นเบอร์พร้อมเพย์ หรือเบอร์พร้อมเพย์ เป็นเลขบัญชี  หรือกดตัวเลขผิดพลาดไปคลาดเคลื่อนไป และก่อนกดยืนยันก็ไม่ตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน จึงทำให้โอนเงินผิดไปยังบุคคลที่ 3  ซึ่งหากเกิดกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ทางธนาคารจะไม่มีอำนาจในการดึงเงินโอนกลับคืนเข้าบัญชีผู้อื่น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้รับโอนเท่านั้น

ดังนั้นเมื่อเรารู้ตัวว่าโอนเงินผิดบัญชี จึงควรให้ปฏิบัติตามขั้นตอนนี้
1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารของเราเพื่อเดินเรื่อง
2. รวบรวมหลักฐานการโอนให้ได้มากที่สุด เช่น จำนวนเงินที่โอน , วันเวลา, ช่องทางการโอนเงิน , สลิปการโอน
3.เตรียมหลักฐานอื่นๆที่ธนาคาร(อาจจะ)ร้องขอ เช่น ใบคำร้องขอโอนเงิน,สำเนาบัตรประชาชน , ใบแจ้งความ เป็นต้น

เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจะแจ้งระยะเวลาดำเนินการ และคอยแจ้งผลการดำเนินการให้เราทราบ หากผู้รับโอนยินยอมคืนเงิน ธนาคารก็จะโอนเงินเข้าบัญชีให้แก่ผู้โอน แต่.. หากผู้รับโอนไม่ยินยอมคืนเงิน ผู้โอนสามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อออกคำสั่งทางกฎหมาย ให้ธนาคารของผู้รับโอนดำเนินการอายัดบัญชี หรือเปิดเผยข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการทางกฏหมายต่อไป

ในทางกลับกัน หากมีเงินโอนผิดเข้ามาบัญชีของเรา ให้เรารีบติดต่อธนาคารและยินยอมให้โอนเงินคืนแก่ผู้โอน  เพราะหากเรานำเงินที่โอนมาผิดไปใช้ ก็อาจถูกเจ้าของเงินดำเนินคดีได้ ทั้งนี้ไม่ควรโอนเงินคืนเอง ควรให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ เพราะอาจมีมิจฉาชีพแฝงตัวมาเพื่อหลอกให้เราโอนเงินไป ซึ่งอาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อในขบวนการฟอกเงิน ได้

ส่วนกรณีการโอนเงินผิดพลาย โดยธนาคารเอง หรือตัวเจ้าหน้าที่ธนาคาร ทางธนาคารจะสามารถดำเนินการแก้ไขข้อมูลเองได้เลย และติดต่อกับผู้รับโอนเงินเพื่อดำเนินการได้ทันที

แต่วิธีการป้องกันการโอนเงินผิดบัญชีคือ เราตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง ก่อนดำเนินการกดยืนยันการโอนไปยังบัญชีปลายทาง